การทำธุรกิจในรูปแบบบริษัทนั้น นอกจากการ จดทะเบียนบริษัท แล้ว ยังมีเอกสารทางด้านบัญชีให้จัดการอีกมากมายและเป็นเอกสารด้านบัญชีที่จำเป็นต้องทำอย่างถูกต้องและมีวิธีการเก็บรักษาในระยะยาว เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต วันนี้ HIG จึงขอแนะนำให้รู้จักกับเอกสารด้านบัญชีเหล่านั้นกันสักเล็กน้อย
เอกสารบัญชี เกี่ยวกับการซื้อ-ขายสินค้าและบริการ
หากจะแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ให้ได้ทำความรู้จักกันคร่าว ๆ ก็อาจแบ่งได้เป็น 3 รายการ ดังนี้
- ใบเสนอราคา เพื่อเสนอต่อลูกค้า หรือผู้มารับบริการ เพื่อให้ทางลูกค้าลงนามอนุมัติ ก่อนทำการสั่งซื้อ
- ใบวางบิล-ใบแจ้งหนี้ เพื่อแจ้งเตือนฝ่ายบัญชีของทางลูกค้า ให้ทราบว่ามีรายการชำระที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทของเรา ซึ่งโดยปกติ บริษัทใหญ่ ๆ จะมีรอบวางบิล และกำหนดการรับเช็ค จึงควรตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดี ก่อนทำการวางบิลหรือส่งใบแจ้งหนี้ เพราะหากเราวางบิลช้าไปจากรอบที่กำหนดเพียง 1 วัน เราก็จะได้เงินในรอบถัดไปซึ่งอาจกินเวลามากกว่าเดิมราว 1 เดือน
- ใบเสร็จรับเงิน-ใบกำกับภาษี เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าบริษัทเราได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว และใบกำกับภาษี จะเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องแสดงต่อสรรพากร
เอกสารบัญชี ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับภาษี
นิติบุคคลมีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายและมีหน้าที่จัดทำเอกสาร เพื่อยื่นต่อสรรพากร โดยรวมแล้ว บริษัททั่วไปจะต้องมีเอกสารเกี่ยวกับภาษีหลายรายการ ดังต่อไปนี้
- เอกสารเกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ในกรณีผู้ถูกหักภาษีเป็นพนักงาน (หักภาษีจากเงินเดือน) จะใช้แบบ ภ.ง.ด. 1
ในกรณีผู้ถูกหักภาษีเป็นบุคคลธรรมดา เช่น ฟรีแลนซ์ จะใช้แบบ ภ.ง.ด. 3
ในกรณีผู้ถูกหักภาษีเป็นนิติบุคคล เช่น supplier จะใช้แบบ ภ.ง.ด. 53
- เอกสารเพื่อยื่นภาษีครึ่งปี
ในปีแรกไม่ต้องยื่นภาษีครึ่งปี แต่ในปีต่อ ๆ ไป นิติบุคคลต้องยื่นภาษีครึ่งปี หรือ ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 ทุกปี โดยกำหนดให้ยื่นภายใน 2 เดือน นับจากวันสิ้นรอบครึ่งปีของรอบระยะเวลาบัญชี เพื่อเสียภาษีครึ่งปี
- เอกสารเพื่อยื่นภาษีประจำปี
กำหนดให้นิติบุคคลยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ภายใน 150 วัน นับจากวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีและต้องแนบรายงานการตรวจสอบของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตด้วย
- เอกสารเพื่อยื่นทุกสิ้นปีภาษี
ทุกสิ้นปีภาษี กำหนดให้นิติบุคคลยื่นแบบ ภ.ง.ด. 1ก กรณีมีการจ่ายเงินเดือนพนักงาน ไม่ว่าจะถูกหักภาษีหรือไม่ก็ตาม
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเอกสารด้านบัญชีโดยทั่วไป ที่บริษัทต้องจัดทำและดำเนินการ ในรายละเอียดยัวมีเอกสารที่ต้องทำมากกว่านี้ ซึ่งเรื่องของภาษี หรือ Tax เป็นเรื่องที่ต้องจัดการอย่างถูกต้อง และแม่นยำ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ รวมถึงการทำบัญชี หรือ Accounting ก็ควรต้องทำอย่างถูกต้อง และแม่นยำเช่นเดียวกัน เพราะการทำบัญชี หรือ Accounting ผิดพลาดอาจส่งผลกับต้นทุน กำไร และหารเครดิตภาษีคืนได้ รวมถึงบริบทต่าง ๆ เกี่ยวกับด้านกฎหมายด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ย่อมดีกว่า หากจะฝากงานเหล่านี้ไว้กับผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษีอย่าง HIG ซึ่งพร้อมให้บริการ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำบัญชี ภาษี รวมถึงการก่อตั้งบริษัทและอื่น ๆ ท่านสามารถติดต่อ HIG ได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่าง
ช่องทางการติดต่อ
FB : How Group Accounts
LINE : @hgaccount
Website : https://www.hgaccount.com/