ขายของออนไลน์ ในปัจจุบัน ต้องเสียภาษีกี่บาท
ปัจจุบัน ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเร็วที่สุดและพัฒนาไปได้ไกลที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นไปทั่วโลก ทำให้ทุกคนต้องปรับตัวและก้าวตามเทคโนโลยีให้ทันเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ธุรกิจหนึ่งที่เกิดขึ้นมามากภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้คือธุรกิจการขายของออนไลน์ ซึ่งมีผู้คนมากมายหันมาทำอาชีพนี้หรือทำเป็นงานเสริมทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในภาคเศรษฐกิจอยู่มาก และอย่างที่เราเคยได้กล่าวถึงในบทความก่อนๆ ว่าผู้มีรายได้ทุกคนมีหน้าที่ต้องเสียภาษี (Tax) เรื่องนี้มีรายละเอียดเป็นอย่างไร วันนี้ How Group Account จะมาเล่าให้ฟัง
ปัจจุบันกฎหมายถือว่าการขายของออนไลน์เป็นการประกอบธุรกิจประเภทหนึ่งเนื่องจากมีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในภาคเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ผู้ประกอบธุรกิจขายของออนไลน์จึงต้องมีการเสียภาษี (Tax) เพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศต่อไป แบ่งออกเป็น
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีที่ผู้ค้าเป็นบุคคลธรรมดา
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีที่ผู้ค้าเป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนบริษัทหรือนิติบุคคล
โดยการคิดอัตราภาษีจะคิดตามขั้นบันไดประกอบด้วย
- ร้านค้าที่ขายของแบบซื้อมาขายไปโดยไม่มีการผลิตคิดจำนวน 60% ของรายได้
- ร้านค้าที่มีการผลิตภายในร้านหักภาษีตามค่าใช้จ่ายจริง
- ร้านค้าที่มีรายได้ผ่านช่องทางออนไลน์เกิน 1 ล้านบาท ให้คิดภาษีอยู่ที่ 0.5% ของเงินได้
คำถามคือกรมสรรพากรจะทราบได้อย่างไรว่าผู้ค้าของออนไลน์ได้มีการเสียภาษีจริงหรือไม่ คำตอบคือด้วยกฎหมาย e-payment จะทำให้กรมสรรพากรตรวจสอบได้ว่ากรณีมีการฝากหรือรับโอนเงิน 3,000 ครั้งต่อปี หรือมีการฝากโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน 400 ครั้งและมียอดเงินเกิน 2 ล้านบาทคือสิ่งที่ผู้ทำการค้าออนไลน์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
สรุปก็คือสำหรับผู้ที่มีรายได้ผ่านช่องทางการค้าขายทุกประเภทมีหน้าที่ที่จะต้องเสียภาษีรวมถึงการขายของออนไลน์ที่เติบโตขึ้นมากในปัจจุบันด้วยแน่นอนว่าเมื่อมีเรื่องของการเสียภาษีเข้ามาเกี่ยวข้องดังนั้นระบบการทำบัญชี (Accounting) ของผู้ค้าจึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังและตรวจสอบได้ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ How Group Account สามารถช่วยคุณได้
ช่องทางการติดต่อ
FB : How Group Accounts
LINE : @hgaccount
Website : https://www.hgaccount.com/